การแพ้ผลิตภัณฑ์หรือเครื่องสำอางกลุ่มที่ทำให้ผิวขาว
ผลิตภัณฑ์หรือเครื่องสำอางในกลุ่มที่ทำให้ผิวขาวใสกำลังเป็นที่นิยมในท้องตลาด มีทั้งที่เป็น แบรนเนมและที่ไม่ใช่แบรนเนม ใช้กับทั้งผิวหน้ำและผิวตัว บำงครั้งในส่วนที่อยู่ในร่มผ้าเช่นรักแร้ก็ยังเน้นเรื่องของผิวที่ขาวใสเช่นกัน ทั้งนี้เป็นไปตำมแฟชั่นของการสวมใส่เสื้อผ้าด้วย เช่นในรายที่ชอบใส่เสื้อสายเดี่ยวก็ชอบที่จะมีรักแร้ที่ขาวเนียนไปด้วย
ผลิตภัณฑ์หรือเครื่องสำอางในกลุ่มที่ทำให้มีผิวขาวใส จะมีส่วนประกอบได้หลายอยางตั้งแต่ กลุ่มของสารกันแดด สารที่ออกฤทธิ์กับเซลล์สร้างเม็ดสีที่เรียกว่าเมลาโนไซต์(melanocyte) โดยตรง หรือไปออกฤทธิ์ในการป้องกันการขนส่งเม็ดสีไปยังส่วนของผิวหนังชั้นนอก สำหรับทางการแพทย์สารที่มีคุณสมบัติดังกล่าวที่ใช้เป็นยาจะมีส่วนประกอบของไฮโดรควิโนน (Hydroquinone) กรดอะชิลิอิก (Azeleic acid ) เอ เฮช เอ (Alpha hydroxy acids ) สารบางตัวในกลุ่มที่เป็นโลหะหนัก เช่น ปรอท (Mercury) จัดเป็นสารห้ามใช้ในเครื่องสำอาง แต่อาจพบได้ในผลิตภัณฑ์หรือเครื่องสำอางที่ไม่ได้มาตรฐานหรือไม่ผ่าน อย. เมื่อมีการนำไปใช้ โดยผู้บริโภคเป็นเวลาต่อเนื่องนาน ๆ อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงในลักษณะของการแพ้โดยมีอาการคัน มีผื่นผิวหนังอักเสบ หรือเกิดการระคายเคืองขึ้นได้โดยจะมีอาการแดง ร้อนของผิวหนังบริเวณที่ใช้ผลิตภัณฑ์หรือเครื่องสำอางนั้น ๆ ในกรณีที่ใช้ติดต่อกันเป็นเวลานานจะทำให้เกิดรอยขำว (Contact leukoderma ) ในลักษณะที่คล้ายกับด่างขาวได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มของผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของไฮโดรควิโนน ( Hydroquinone ) โลหะหนัก เช่น ปรอท ( Mercury ) สำร MBHQ ( Monobenxyl ether ofhydroquinone ) โดยกลไกของการเกิดพิษกับเซลล์เมลาโนไซด์(Toxic reaction )
การใช้ผลิตภัณฑ์หรือเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของไฮโดรควิโนน ( Hydroquinone ) เป็นระยะเวลานาน ๆ จะทำให้ผิวหนังบริเวณที่สัมผัสกับสารเกิดเป็นรอยคล้ำขึ้นมากกว่าเดิม จากการที่ไฮโดรควิโนนไปยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ที่มีชื่อว่ำ homogentisic acid oxidase ทำให้เกิดการสะสมของ homogentisic acid ซึ่งจะถูกเปลี่ยนไปเป็น ochro notic pigment ทำให้มีสีผิวเป็นสีน้ำตาลทองเกิดภาวะที่เรียกว่า โอโครโนซิส (ochronosis) สำหรับสารปรอท ( Mercury ) ที่เป็นส่วนผสมอยู่ในผลิตภัณฑ์หรือเครื่องสำอาง เมื่อใช้เป็นระยะเวลำนาน ๆ จะทำให้สีของผิวหนังเข้มขึ้นจากการสะสมของ mercury granules โดยซึมผ่านทางรูขุมขนและต่อมไขมัน การสะสมของปรอทในส่วนของเคอราติน ( keratin ) เช่น เล็บ จะทำให้มีสีที่ผิดปกติและเกิดเล็บเปราะบางได้
การเกิดพิษของปรอทต่อร่างกาย อาจเกิดแบบเฉียบพลันโดยมีอาการทางระบบทางเดินอาหาร ปวดท้อง และปอดอักเสบ ในรายที่เป็นพิษเรื้อรังจะมีอาการทางไต เช่น Nephrotic syndrome Membranous glomerulonephritis Proliferative glomerulonephritis และอาการทางระบบประสาท นอกจากนี้อาจมีส่วนผสมของสเตียรอยด์ในผลิตภัณฑ์หรือเครื่องสำอางที่ทำให้ผิวขาวได้เนื่องจาก สเตียรอยด์เองก็มีผลทำให้สีผิวขาวขึ้นได้ด้วยเช่นกันโดยการไปลดการสร้างฮอร์โมนภายในร่างกาย ทำให้มีการลดลงของฮอร์โมน propiocortin ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่กระตุ้นเซลล์สร้ำงเม็ดสีเมลาโนไซต์ทำให้มีการหดตัวของเส้นเลือดในผิวหนัง จึงทำให้ผิวขาวขึ้นด้วย การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์หรือเครื่องสำอางที่ทำให้ผิวขาวจึงควรต้องพิจารณาให้รอบคอบ และเลือกที่มีความปลอดภัยเพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดผลข้างเคียงดังที่กล่าวมาแล้ว ในกรณีที่เกิดความไม่แน่ใจว่าจะเป็นอาการจากการแพ้หรือไม่ แนะนำให้หยุดใช้ผลิตภัณฑ์หรือเครื่องสำอางนั้น ๆ ไปก่อน และอาจไปพบแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคผิวหนังเพื่อรับการตรวจ วินิจฉัย และทำการรักษาจะปลอดภัยดีกว่า
สถาบันโรคผิวหนัง
บทความที่เกี่ยวข้อง
-
นำร่องใช้น้ำมันและสารสกัดจากเมล็ดกัญชงในเครื่องสำอาง
นำร่องใช้น้ำมันและสารสกัดจากเมล็ดกัญชงเป็นอันดับแรกและจะขยายไปยังส่วนอื่น ๆ...
-
เตือนอันตรายการฉีดวิตามินเข้าทางหลอดเลือด อาจเกิดการแพ้รุนแรงได้
เตือนหลีกเลี่ยงการฉีดวิตามินเข้าทางหลอดเลือดเพราะยังไม่มีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือยืนยัน...
-
สวยใสอย่างมีสติ...อย่านำยาทาเล็บมาทาเคลือบฟัน อันตราย!!
การนำไปทาเคลือบฟันเป็นการใช้ผิดวัตถุประสงค์ อาจเกิดอันตรายต่อสุขภาพ...
-
อย. ยืนยัน 4 สารในเครื่องสำอางมีความปลอดภัย สามารถใช้ได้ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด
ในประเทศไทยอนุญาตให้ใช้สารทั้ง 4 ชนิด นี้เป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางได้...
-
เปิดตำรามาตรฐานยาสมุนไพร
เรื่องการจัดทำตำรามาตรฐานยาสมุนไพร เพื่อใช้ในการควบคุมคุณภาพ และป้องกันการปนปลอมที่พบมากในปัจจุบัน...
-
เตือนภัยอันตรายจากการใช้ครีมหน้าขาว
ปัจจุบันการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์หรือเครื่องสำอางในกลุ่มที่ทำให้มีผิวขาวใสเป็นที่นิยมในประชาชน...