เบาหวานทำให้ตาบอดได้อย่างไร?
20 พฤษภาคม 2551 11:42
4,605
อย่าปล่อยให้ตัวคุณเองหรือญาติตาบอดเพราะเบาหวาน
กลุ่มโรคตาที่เกิดจากเบาหวาน ถือเป็นภาวะแทรกซ้อนของโรคเบาหวาน ซึ่งมีความรุนแรงตั้งแต่ ทำให้ตามัว จนถึงตาบอดประกอบด้วย
เบาหวานขึ้นจอรับภาพ (Diabatic Retinopathy) - มีการทำลายของเส้นเลือดที่เลี้ยงจอรับภาพ
ต้อกระจก (Cataract) - เลนส์แก้วตาเปลี่ยนสภาพจากใสเป็นขุ่น
ต้อหิน (Glaucoma) - ความดันตาสูงขึ้นเรื่อยๆ ทำลายขั้วประสาทตา ทำให้ตาบอดแบบค่อย เป็นค่อยไปโดย ไม่รู้สึกตัว
เบาหวานขึ้นจอรับภาพ พบบ่อยที่สุดและเป็นสาเหตุของตาบอดอันดับหนึ่ง ในคนอเมริกัน เส้นเลือดที่เลี้ยงจอรับภาพ จะบวม และรั่วน้ำเหลือง ทำให้จอรับภาพบวม และเกิดเส้นเลือดงอกผิดปกติที่จอ รับภาพ และมีเลือดออกในลูกตา เพราะเส้นเลือดเหล่านี้จะเปราะแตกง่าย
คนไข้เบาหวานทุกคน ยิ่งเป็นเบาหวานนานเท่าไร โอกาสเกิดก็ยิ่งมากขึ้นพบว่า เกือบครึ่งหนึ่งของคนไข้ เบาหวาน เกิดเบาหวานขึ้นจอรับภาพ แต่ความรุนแรงอาจแตกต่างกันไป
โรคนี้น่ากลัวตรงนี้เอง คือ ไม่มีอาการอะไรที่จะเป็นเครื่องเตือนคนไข้เลยในระยะแรกๆ ของโรค ไม่มัว ไม่เจ็บ ไม่ปวด จนกว่าโรคจะเป็นมาก ดังนั้น ถ้ารอจนมีอาการมักจะสายเกินไป ตามัวจะเกิดขึ้นได้ ถ้าบริเวณแมคคิวล่าบวม จากน้ำที่รั่วจากเส้นเลือด หรือมีเส้นเลือดแตกแล้วมีเลือดออกมา จนทำให้น้ำวุ้นตาขุ่น
แม้แต่ในบางรายที่มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างมากมายภายในลูกตาแล้ว แต่อาการอาจยังไม่ปรากฎก็ได้ ดังนั้น การตรวจตาอย่างสม่ำเสมอ เป็นระยะๆ ในคนไข้เบาหวาน จึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก
ทางเดียวที่ดีที่สุด คือการพบจักษุแพทย์แล้วตรวจตาอย่างละเอียด การตรวจตาโดยจักษุแพทย์ จะครอบคลุม การตรวจ ทั้งต้อกระจก ต้อหินและจอรับภาพ ทั้งนี้ การตรวจจอรับภาพที่สมบูรณ์จำเป็น ต้องใช้ยาหยอดขยายม่านตาช่วยด้วย ซึ่งอาจทำให้ตาคนไข้มัวตลอดทั้งวันนั้นจากฤทธิ์ยาขยายม่านตา เมื่อ ยาหมดฤทธิ์ตาจะกลับเห็นเหมือนเดิม
ได้ จักษุแพทย์ทั่วโลกสามารถช่วยไม่ให้คนไข้เบาหวานตาบอดได้เป็นจำนวนมากด้วยการใช้แสง เลเซอร์ ทำลายเส้นเลือดที่ผิดปกติในจอรับภาพ แสงเลเซอร์ยังสามารถช่วยรักษาแมคคิวล่าที่บวมน้ำให้ แห้งได้ โดยไปอุดรูรั่วของเส้นเลือดที่ผิดปกติ แต่การใช้แสงเลเซอร์ไม่สามารถช่วยให้การมองเห็นที่เสีย ไปแล้วกลับคืนได้ การใช้แสงเลเซอร์ต้องเป็นไปเพื่อการป้องกัน ดังนั้น การตรวจตาคนไข้เบาหวานจึง เป็นวิธีป้องกันตาบอดที่ดีที่สุด
โอกาส เกิดต้อกระจก ของคนไข้เบาหวานสูงกว่าตาคนที่ไม่เป็นเบาหวานถึง 2 เท่า และต้อกระจก ก็เป็น ตั้งแต่อายุยังไม่มากด้วย (ต้อกระจก จะทำให้คนไข้ตามัวมากขึ้นเรื่อยๆ) แต่เป็นโรคที่ รักษาได้ผลดีมากด้วยการผ่าตัด
ต้อหินในคนไข้เบาหวาน ก็พบบ่อยกว่าคนที่ไม่เป็นหวาน 2 เท่า และยิ่งเป็นเบาหวานนานขึ้น เท่าไร ก็ยิ่ง มีอัตราเสียงต่อการเป็นต้อหินสูงขึ้น เช่นเดียวกับ โรคเบาหวานขึ้นจอรับภาพ ต้อหินเป็นโรค ที่น่ากลัวอีกโรคเพราะ มักไม่มีอาการเตือน ต้องตรวจจึงจะทราบ แต่รักษาได้ด้วยยาหยอด หรือแสงเล เซอร์ หรือผ่าตัด
ถ้าคุณเป็นคนไข้เบาหวานเอง คุณต้องพบจักษุแพทย์ เพื่อตรวจตาอย่างละเอียดอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ถ้าพบว่า เบาหวานขึ้นจอรับภาพ แล้ว ก็ต้องกลับไปตรวจเป็นระยะๆ ถ้าคุณไม่เป็นเบาหวานแต่ มีญาติ เป็น คุณต้องบอกญาติที่เป็นเบาหวานให้พบแพทย์ เพื่อตรวจตา
ที่มา... halalthailand
บทความที่เกี่ยวข้อง
-
ตาเข ตาเหล่ในเด็ก รู้ก่อนรักษาหายได้
อย่านิ่งนอนใจเพราะตาเหล่ ตาเขหายเองไม่ได้ แต่รักษาให้หายได้...
-
เพิ่มเสน่ห์ให้ตัวเอง..ทำได้ไม่ยาก
การจะมีเสน่ห์ได้ ในความคิดของคนจำนวนมากมักเข้าใจว่า ต้องมีรูปร่างหน้าตาดี...
-
พฤติกรรมป้องกันถุงใต้ตามาเยือน
ถุงใต้ตาเป็นปัญหาของสาวๆ ที่ไม่ใคร่อยากจะมีนัก เป็นการบ่งบอกถึงผิวที่เสื่อมโทรม...
-
ไม่อยากให้ลูกติดโควิด พ่อแม่ต้องเพิ่มความระวังอะไรบ้าง
เวลาคุณพ่อคุณแม่ออกไปทำงาน มีความเป็นไปได้ที่เชื้อโรคต่าง ๆ อาจติดมาตามเสื้อผ้า...
-
ไดอะซีแพม ส่วนผสมในเคนมผง ใช้เกินขนาดอันตรายถึงตาย
เตือนไดอาซีแพม ส่วนผสมในเคนมผง ใช้เกินขนาดอันตรายถึงตาย...
-
แจ้งเตือนข่าวปลอม เล่นโทรศัพท์มือถือในที่มืดเป็นเวลานาน เสี่ยงเป็นโรคมะเร็งตา
ข้อเท็จจริงพบว่า การเล่นโทรศัพท์มือถือในที่มืดเป็นเวลานานไม่ได้เสี่ยงให้เกิดโรคมะเร็งตาแต่อย่างใด...
กลับไป ด้านบน